วันพุธที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

สรุปบทที่ 11 การยศาสตร์



การยศาสตร์ คือ กฏของงานซึ่งเป็นศาสตร์หรือวิชาการที่เป็นการปรับเปลี่ยนสภาพงานให้เหมาะสมกับผู้ปฏิบัติงาน

มาตรฐานและการออกแบบสถานีงานที่ใช้คอมพิวเตอร์
  ท่าทางที่สามารถก่อให้เกิดอันตราย ได้แก่ การโน้มตัวไปข้างหน้า การยืดแขนมากเกินไป การนั่งเก้าอี้ต่ำหรือสูงเกินไป
การวัดสัดส่วนร่างกายสำหรับการออกแบบสถานีทำงานการออกแบบสถานีงานต้องพิจารณาจากสัดส่วนร่างกายของผู้ปฏิบัติงาน

การจัดสุขภาวะให้เหมาะแก่การทำงาน
1.เมื่ออยู่ในท่าทำงานสามารถตั้งศีรษะได้ตรง
2.สายตามองไปด้านหน้าได้สะดวก จอภาพอยู่ต่ำเล็กน้อยกว่าระดับสายตา
3.กล้ามเนื้อไหล่ผ่อนคลาย
4.มือทั้งสองข้างอยู่ในแนวเดียวกันกับแขน
5.หลังตั้งตรงพอดีกับที่พักหลัง
6.เอกสารอยู่ในตำแหน่งที่ง่ายต่อการมอง
7.เท้าทั้งสองข้างสามารถวางได้พอดี

การจัดแสงสว่างในการทำงานกับคอมพิวเตอร์
1.ความสว่างเหมาะสมกับลักษณะงาน
2.การเลือกชนิดของอุปกรณ์ไฟฟ้า เช่น หลอดไฟ
3.ปรับตำแหน่งของจอภาพให้อยู่ในแนวขนาน
4.อัตราส่วนระหว่างระยะห่างของโคมไฟ

ปัญหาสุขภาพ : ความผิดปกติของผิวตา เกิดจากแสงสว่างที่มากหรือน้อยเกินไป , การปรับโฟกัส เกิดได้จากขนาดของตัวหนังสือ , การจัดวางคอมพิวเตอร์ เช่น ระยะห่างตากับจอภาพ

แนวทางการแก้ไข  
1.สถานที่ทำงาน (ควรใช้จอแบบเพื่อลดการสะท้อนแสง , ปรับความสว่างและตวามแตกต่างของสี , เลือกใช้ตัวอักษรเข้มบนพื้นจอสีอ่อน , จัดจอภาพให้มีระยะห่างจากตา)
2.แสงสว่าง ไม่ควรอยู่ด้านหน้าและด้านหลังควรอยู่ด้านข้างจอภาพ
3.การพักสายตา ควรหยุดทำงานและลุกขึ้นเดิน
4.การปรับพฤติกรรมการใช้สายตา การนวดผ่อนคลายกล้ามเนื้อตา

ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรคกล้ามเนื้อเรื้อรัง
1.ท่านั่งทำงานไม่เหมาะสม
2.กล้ามเนื้อมีการทำงานมากเกินไป
3.ขาดการออกกำลังกายอย่างถูกต้อง

เคล็ดลับป้องกันโรคจากคอมพิวเตอร์
การปรับแต่งสภาพแวดล้อม
1.คีย์บอร์ด ตรวจสอบว่าคีย์บอร์ดของคุณว่าอยู่ในระดับที่แขนเหมาะสมหรือเปล่า  ต้องมั่นใจว่าข้อศอกอยู่ในมุมที่เปิด90องศา  ตำแหน่งที่นั่งต้องอยู่ตรงกลางคีย์บอร์ด
2.จอคอมพิวเตอร์  ควรปรับแสงสว่างจอภาพให้พอดี  ปรับหน้าจอให้แหงนขึ้นเรียบร้อย 
3.เก้าอี้ เบาะเก้าอี้ไม่ควรแหงนขึ้น 
4.แสง โคมไฟบนโต๊ะทำงานควรใช้แสงสีขาว  หลอดไฟควรมีแสงสว่างในโทนเดียวกัน  

สรุปบทที่ 10 ความปลอดภัยทางคอมพิวเตอร์



ความปลอดภัยทางคอมพิวเตอร์ เป็นกระบวนการที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันและตรวจสอบการเข้าใช้งานเครื่องคอมพิวเตอร์

องค์ประกอบของความมั่นคงปลอดภัยของสารสนเทศ 
1.ความลับ คือ การรับรองว่าจะมีการเก็บข้อมูลไว้เป็นความลับ และผู้มีสิทธิ์เท่านั้นจึงจะเข้าถึงข้อมูลนั้นได้
2.ความถูกต้องสมบูรณ์ คือ มาตรการควบคุมความมั่นคงปลอดภัยของสารสนเทศต้องมีกลไกการตรวจสอบสิทธิ์
3.ความพร้อมใช้งาน คือ การทำให้สารสนเทศสามารถตอบสนองระบบได้เมื่อต้องการ
ภัยคุกคาม คือ สาเหตุของสถานการณ์ที่ไม่พึงประสงค์ซึ่งก่อให้เกิดผลเสียต่อระบบคอมพิวเตอร์
ช่องโหว่ คือ จุดอ่อนของทรัพย์สินที่ถูกภัยคุกคามใช้เป็นช่องทางในการโจมตี

ภัยคุกคามทางคอมพิวเตอร์ในปัจจุบัน

- การหลอกว่ามาดี แต่จริงๆมาร้าย เช่น หลอกให้โอนเงินช่วยเหลือ
- ส่ง URL Ling เพื่อให้ผู้รับคลิกเข้าไประหว่างนั้นก็มีการแอบดักเอาข้อมูลส่วนตัวไป
- ถูกสวมรอยกันง่ายๆเพียงเล่นเฟซบุค เช่น เราได้ล็อคอินค้างไว้

โปรแกรมประสงค์ร้าย

- มัลแวร์ คือ ซอฟต์แวร์ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อแอบเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์โดยที่ผู้ใช้ไม่อนุญาต
- ไวรัส เป็นโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่สามารถสำเนาของตัวเองเพื่อแพร่ออกไป
- หนอน มีความสามารถในการทำลายระบบในเครื่องคอมพิวเตอร์สูงที่สุดกระจายตัวได้เร็ว
- ม้าโทรจัน คือ โปรแกรมจำพวกหนึ่งที่ถูกออกแบบขึ้นมาเพื่อแอบแฝง
- สปายแวร์ คือ โปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่บันทึกการกระทำของผู้ใช้บนคอมพิวเตอร์ และแอบดักข้อมูล

โปรแกรมป้องกันและกำจัดการคุกคาม

- แอนติไวรัส จะค้นหาและทำลายไวรัสในคอมพิวเตอร์ของเรา
- แอนติสปายแวร์ เป็นโปรแกรมป้องกันการโจรกรรมข้อมูลจากสปายแวร์และแฮ็คเกอร์

สรุปบทที่ 9 กูเกิ้ลแอพพลิเคชั่น



Google Apps คือ แอพพลิเคชั่นที่ถูกพัฒนาขึ้นมาโดย Google เพื่อให้บริการทางด้านการบริหารจัดการภายในองค์กร
1.กูเกิ้ลเมล (http://www.gmail.com) เป็นบริการหลักที่จะต้องมีหากเราต้องการใช้บริการอย่างอื่นของกูเกิ้ล
2.แผนที่ (Google map) คือ การบอกเส้นทางให้แก่ผู้ใช้ เบื้องต้นว่าจะสามารถเดินทางไปถึงปลายทางได้อย่างไร การแสดงผลของกูเกิ้ลมี 2 แบบคือ แบบแผนที่และมุมมองแบบดาวเทียม
3.ปฏิทิน (Calendar) เป็นบริการจัดตารางนัดหมายประจำวัน ผู้ใช้สามารถที่จะกำหนดวัน เวลานัดหมายผ่านบริการนี้
4.กูเกิ้ลดอคคิวเมนท์ (Google Document) เป็นโปรแกรมจัดการด้านเอกสาร ไม่ว่าจะเป็นการพิมพ์เอกสาร นำเสนอ ตารางคำนวณ เป็นต้น
5.กูเกิ้ลพลัส (google+) เป็นบริการใหม่มีจุดมุ่งหมายที่จะสร้างขึ้นมาให้เป็นเครือข่ายสังคมออนไลน์
6.บริการอื่นๆของกูเกิ้ล
    - ไซต์ เป็นบริการที่ให้ผู้ใช้มีหน้าเว็บเป็นของตัวเอง
    - กูเกิ้ลกรุ๊ป บริการให้มีการสร้างกลุ่มความสนใจหรือกลุ่มเพื่อนร่วมงาน
    - ยูทูบ เป็นบริการให้ผู้ใช้สามารถอัพโหลดไฟล์ประเภทวีดีโอขึ้นแสดงบนอินเทอร์เน็ต
    - สกอลาร์ เป็นเว็บไซต์ให้บริการค้นหาบทความงานวิจัย

สรุปบทที่ 8 เครือข่ายสังคมออนไลน์



ระบบเครือข่ายบนโลกออนไลน์ หรือการติดต่อสื่อสารถึงกันผ่านอินเทอร์เน็ต หมายถึง การสื่อสาร สนทนา แลกเปลี่ยนข้อมูลอาจจะเป็นข้อความ รูปภาพ เสียง วีดีโอ หรือเล่นเกมส์ ผ่านระบบเครือข่ายที่เชื่อมโยงกันบนโลกอินเทอร์เน็ต
ประเภทของเครือข่ายสังคมออนไลน์ มี 6 ประเภท
1.ประเภทแหล่งข้อมูลหรือความรู้ เช่น Wikipedia
2.ประเภทเกมส์ออนไลน์ เช่น Audition
3.ประเภทสร้างเครือข่ายสังคม เช่น Facebook
4.ประเภทฝากภาพ เช่น Flickr
5.ประเภทสื่อ เช่น Youtube
6.ประเภทซื้อขาย เช่น Amazon

เว็บไซต์เครือข่ายสังคมออนไลน์
1.www.hi5.com เป็นเว็บไซต์ที่ให้ผู้บริการมาฝากProfileของตนเองคล้ายกับ Blog Hi5ยังมีส่วนจัดการกับพื้นหลังแบ็กกราวด์ที่สามารถตกแต่งเลือกลวดลาย รูปและดาวน์โหลดได้ตามเว็บไซต์ต่างๆ
2.www.Facebook.com มาร์ก เอลเลียตซักเคอร์เบิร์กผู้ก่อตั้งเว็บชุมชนออนไลน์เฟสบุ๊ค เปิดตัวเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2004
3.www.myspace.com ให้บริการทำเว็บส่วนตัว บล็อก การเก็บ ภาพ วีดีโอ ดนตรีและเชื่อมโยงเข้ากับกลุ่มคนอื่นก่อตั้งเมื่อเดือนส.ค.2546
4.http//twitter.com เป็นบริการจำพวกไมโครบล็อก โดยผู้ใช้สามารถส่งข้อความยาวไม่เกิน140ตัวอักษร
5.http//plus.google.com ให้บริการโดยกูเกิ้ลใช้งานครั้งแรก 28 มิ.ย.2554 ปัจจุบันได้มีการรองรับการทำงานผ่านเว็บเบราซ์เซอร์แอพพลิเคชั่นของแอนดรอยด์

สรุปบทที่ 7 เว็บแอพพลิเคชั่น



การสืบค้น ค้นคว้าหาข้อมูล(Serach engine) หรือโปรแกรมค้นหา คือ เครื่องมือหรือโปรแกรมที่ช่วยในการค้นหาข้อมูลโดยเฉพาะข้อมูลบนอิน-เทอร์เน็ต
Serach engine มีการเก็บรายชื่อเว็บไซต์ และข้อมูลที่เกี่ยวข้องต่างๆของเว็บไซต์และนำมาจัดเก็บไว้ใน Server เพื่อให้สามารถค้นหาและแสดงผลได้สะดวก เช่นYahoo.com  Google.com เป็นต้น
ประเภท Serach engine มี 3 ประเภท
1.Keyword Index การค้นหาข้อมูล โดยการค้นจากข้อความในเว็บเพจที่ได้ผ่านการสำรวจมาแล้วให้ความสำคัญกับการเรียงลำดับข้อมูลก่อนหลัง การค้นหาข้อมูลโดยวิธีการเช่นนี้จะมีความรวดเร็วมาก แต่มีความละเอียดในการจัดแยกหมวดหมู่ของข้อมูลค่อนข้างน้อย
2.Subject Directory หรือ WebDirectory คือ สารบัญเว็บไซต์ที่ให้สามารถค้นหาข่าวสารข้อมูลด้วยหมวดหมู่ Search Engine ประเภทนี้จะถูกจัดแบ่งตามเนื้อหาก่อน แล้วจึงนำมาเป็นฐานข้อมูลในการค้นหาต่อไป
3.Metasearch engine ใช้หลักการในการค้นหาโดยอาศัย Meta Tag ในภาษาHTMLและยังสามารถเชื่อมโยงไปยัง Search Engine ประเภทอื่นๆ เพื่อเรียกดูข้อมูลที่ Search Engine อื่นๆ ค้นพบ วิธีการนี้จะไม่ให้ความสำคัญกับขนาดเล็กใหญ่ของตัวอักษรและมักจะไม่ค้นหาคำประเภท Natural Language (ภาษาพูด)   

หลักการในการค้นหาข้อมูลของ Serach engine
การค้นหาจากชื่อของตำแหน่งURLในเว็บไซต์ต่างๆการค้นหาจากคำที่มีอยู่ในTitle,การค้นหาจากคำสำคัญหรือKeyword,การหาค้นหาจากส่วนที่ใช้อธิบายหรือบอกลักษณะSite

ประโยชน์Serach engine
1.ค้นหาเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลที่ทำการค้นหาได้สะดวก รวดเร็ว
2.สามารถค้นหาแบบเฉพาะเจาะจงได้
3.สามารถค้นหาจากเว็บไซต์เฉพาะทางที่มีการจัดทำไว้ให้ได้
4.มีความหลากหลายในการค้นหาข้อมูล
5.รองรับการใช้งานได้หลากหลายภาษา

สรุปบทที่ 6 การเชื่อมต่อเครือข่ายอินเทอร์เน็ต



อินเตอร์เน็ต(Internet) เป็นเครือข่ายคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ที่เชื่อมโยงเครือข่ายคอมพิวเตอร์ทั่วโลกเข้าด้วยกันเป็นการรวมคำสองคำเข้าด้วยกันคือ Internetional + Networking หรือเครือข่ายของนานาชาติที่ทุกคนมีส่วนเป็นเจ้าของเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าไซเบอร์สเปซ ต่อมานิยมเรียกสั้นๆว่าอินเทอร์เน็ตหรือเน็ต

การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต
รูปแบบการเชื่อมต่อเครือข่ายอินเตอร์เน็ตมีอยู่ 2 แบบตามลักษณะการใช้งานซึ่งจะมีความเร็วและค่าใช้จ่ายแตกต่างกันไปดังนี้
1. การเชื่อมต่อแบบส่วนบุคคล เป็นการเชื่อมต่อเครื่องคอมพิวเตอร์ผ่านคู่สายโทรศัพท์หนึ่งหมายเลขไปยังผู้ให้บริการโยคิดค่าบริการตามจำนวนชั่วโมงการใช้งาน ความเร็วในสายที่สามารถติดต่อได้อยู่ในช่วง 20-50 kbps
2.การเชื่อมต่อแบบองค์กร เป็นการเชื่อมต่อที่มีความเร็วสูงกว่าแบบส่วนบุคคลและเป็นการเชื่อมต่อแบบถาวรตลอดเวลากับผู้ให้บริการด้วยสายเช่าและอุปกรณ์พิเศษ

วิธีการติดต่อเข้าระบบอินเตอร์เน็ต สามารถทำได้ 3 วิธี คือ
1. การเชื่อมต่อโดยตรง (Direct Internet Access)
2. การเชื่อมต่อผ่านทางสายโทรศัพท์และโมเด็ม (Dial-Up Access)
3. การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตแบบไร้สาย(Wireless Internet)

สิ่งที่ต้องมีในการใช้อินเทอร์เน็ต
1. เครื่องคอมพิวเตอร์ (Computer) เป็นอุปกรณ์ส่วนสำคัญซึ่งมีผลต่อการรับข่าวสาร
2. โมเด็ม (Modem) เป็นอุปกรณ์แปลงสัญญาณดิจิตอลจากคอมพิวเตอร์ให้เป็นสัญญาณอะนาล็อกผ่านคู่สายโทรศัพท์และแปลงสัญญาณกลับอีกครั้งให้กับเครื่องคอมพิวเตอร์
3. คู่สายโทรศัพท์ (Telephone line) การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตจะต้องมีคู่สายโทรศัพท์อย่างน้อย 1 เลขหมาย
4. ผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ต (Internet Service Provider) คือผู้เชื่อมต่อสัญญาณอินเทอร์เน็ตจากประเทศไทยไปยังเครือข่ายอินเทอร์เน็ตในต่างประเทศ

สรุปบทที่ 5 การสื่อสารข้อมูลและระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์



   บทบาทและการติดต่อสื่อสารเป็นการพูดคุยหรือส่งข่าวกันของมนุษย์ ซึ่งอาจเป็นการแสดงออกด้วยท่าทาง การใช้ภาษาพูดหรือผ่านทางตัวอักษร โดยส่วนใหญ่เป็นการสื่อสารในระยะใกล้ ต่อมาเมื่อเทคโนโลยีก้าวหน้ามากขึ้นมีการพัฒนาอุปการณ์อิเล็กทรอนิกส์สำหรับใช้ในการสื่อสาร ทำให้สามารถสื่อสารได้ในระยะไกลและสะดวกรวดเร็วมากยิ่งขึ้น เช่น โทรเลข โทรศัพท์ และโทรสาร
ประโยชน์ของเครือข่ายคอมพิวเตอร์
1.การจัดเก็บข้อมูลได้ง่ายและสื่อสารได้รวดเร็ว
2.ความถูกต้องของข้อมูล
3.ความเร็วในการทำงาน
4.ต้นทุนประหยัด
องค์ประกอบหลักของระบบสื่อสารข้อมูล
1.ผู้ส่ง(Sender) เป็นต้นทางของการสื่อสารข้อมูลมีหน้าที่เตรียมสร้างข้อมูล เช่น ผู้พูด โทรทัศน์
2.ผู้รับ(Receiver) เป็นปลายทางการสื่อสาร เช่น ผู้ฟัง
3.สื่อกลาง(Medium) เป็นเส้นทางการสื่อสารเพื่อนำข้อมูลจากต้นทางไปยังปลายทาง
4.ข้อมูลข่าวสาร(Message) เช่น ข้อความ รูปภาพ เสียง ตัวเลข วีดีโอ
5.โปรโตคอล(Protocol) คือ วิธีการหรือกฏระเบียบที่ใช้ในการสื่อสาร
วิธีการถ่ายโอนข้อมูล มี2แบบ
1.การถ่ายโอนข้อมูลแบบขนาน คือ การส่งข้อมูลครั้งละหลายๆบิตพร้อมกัน    
2.การถ่ายโอนข้อมูลแบบอนุกรม เป็นการส่งข้อมูลครั้งละ 1 บิต มี2ประเภท (การส่งข้อมูลแบบ
อะซิงโครนัสและการส่งข้อมูลแบบซิงโครนัส)
การติดต่อแบบอนุกรมตามรูปแบบการรับส่งได้3แบบ: สื่อสารทางเดียว(Simplex) แบบกึ่งสองทิศทาง(half duplex)  แบบสองทิศทาง(Full Duplex)
ประเภทของสัญญาณ
1.สัญญาณแบบดิจิทัล แบ่งเป็นช่วงๆอย่างไม่ต่อเนื่อง
2.สัญญาณอนาล็อก มีความต่อเนื่องของสัญญาณ
สื่อกลางในการสื่อสาร ข้อมูล ตัวกลางหรือสายเชื่อมโยงเป็นส่วนที่ทำให้เกิดการเชื่อมต่อ 
ประเภทมีสาย 
1.สายคู่บิดเกลียว หัวเชื่อมต่อ 
2.สายโคแอคเชียล นิยมใช้เป็นช่องทางสื่อสารสัญณาณแอนาล็อกเชื่อมโยงผ่านใต้ทะเล 
3.เส้นใยนำแสง มีความปลอดภัยในการส่งสูง) 
ประเภทไร้สาย 
1.แบบ Directionalเป็นแบบกำหนดทิศทางของสัญญาณ 
2.แบบ Omnidirectional เป็นแบบกระจายสัญญาณ
เครือข่ายคอมพิวเตอร์ คือ การนำเครื่องคอมพิวเตอร์หลายๆเครื่องมาต่อเชื่อมโยงให้มีการสื่อสารข้อมูลระหว่างกันเพื่อให้เพิ่มขีดความสามารถของระบบให้สูงขึ้นเพิ่มการใช้งานด้านต่างๆ  มี3ประเภท
1.LAN เครื่อข่ายคอมพิวเตอร์แบบท้องถิ่น  2.MAN เครือข่ายคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ครอลคลุมพื้นที่ทั้งตำบล อำเภอ  3.WAN เครื่อข่ายคอมพิวเตอร์ครอบคลุมได้ทั้งประเทศ
โพรโทรคอล คือข้อกำหนดหรือข้อตกลงที่ใช้ควบคุมการสื่อสารข้อมูลในเครือข่าย 
รูปร่างเครือข่าย  การเชื่อมต่อแบบจุดต่อจุด เป็นการเชื่อมต่อระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์สองเครื่อง  การเชื่อมต่อแบบหลายจุด โดยมีจุดเชื่อมแยกออก 
1.โทโปโลยีแบบ BUS
2.โทโปโลยีแบบ RING
3.โทโปโลยีแบบ STAR
อุปกรณ์เครือข่าย
1.การ์ดเครือข่าย
2.ฮับ
3.สวิตซ์
4.เกตเวย์
5.บริดจ์
6.รีพีตเตอร์
7.โมเด็ม
8.เราเตอร์
9.Access  point
10.ADSL Modem Router
11.Air Card